โรคอัลไซเมอร์ (ALZHEIMER'S DISEASE)

  โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)เป็นโรคสมองเสื่อมที่เกิดจากเซลส์สมองตาย ทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว ,การควบคุมอารมณ์ตัวเอง, ความทรงจำจนถึงขั้นไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ เช่น พูดไม่ได้ ,แปรงฟันไม่ได้ เป็นต้น ในระยะท้ายของโรคจะสูญเสียความจำทั้งหมด   ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 2-4 % ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ยิ่งอายุมากขึ้นก็จะพบผู้ป่วยด้วยโรคนี้มากขึ้น กล่าวคือจะพบเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 5 ปี หลังอายุ 60 ปี แต่สำหรับผู้ที่มีอายุ 90 ปีขึ้นไปแล้วยังไม่ป่วยเป็นโรคนี้ อัตราการเกิดโรคจะลดลงถึง 50% 

อาการของโรค
โรคนี้แบ่งเป็น 4 ระยะ โดยในแต่ระยะจะมีอาการแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดการตายของเซลล์สมอง  รู้ได้อย่างไรว่ากำลังจะเป็น "อัลไซเมอร์" 

1. หลงๆลืมๆ เช่น ลืมสิ่งของ ลืมนัด จำเหตุการณ์ หรือคำพูดที่เพิ่งผ่านมาไม่ได้ 
2. สับสนเรื่องเวลา สถานที่ กลับบ้านไม่ถูก (ข้อนี้ พวกหนีเมียไปเที่ยวนอกบ้านไม่เกี่ยว 555)
3. จำบุคคลที่เคยรู้จัก เพื่อน หรือสมาชิกภายในครอบครัวไม่ได้ คิดว่าเป็นคนแปลกหน้า (รู้ไม๊ว่าผมเป็นลูกใคร 555)
4. มีปัญหาเรื่องการพูด ลืม หรือเรียกสิ่งของไม่ถูก พูดคำ หรือประโยคซ้ำๆ 
5. ไม่สนใจในสิ่งที่เคยสนใจ เช่น กิจกรรมประจำวัน งานอดิเรก 
6. มีปัญหาเรื่องการนับ หรือถอนเงิน การใช้โทรศัพท์ 
7. มีพฤติกรรม ก้าวร้าว , ซึมเศร้า, หูแว่ว, หวาดระแวง 
8. ไม่สนใจดูแลความสะอาดของตัวเอง เช่น แปรงฟันไม่เป็น, อาบน้ำไม่เป็น,การขับถ่ายไม่เป็นที่ เป็นต้น


การดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง
เมื่อรู้แล้วว่าโรคนี้มีสาเหตุมาจากการที่เซลล์สมองตาย เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเป็นโรคนี้เราจะต้องทำตัวอย่างไร มาดูกัน
1.รับประทานอาหารที่บำรุงสมองเป็นประจำ เพื่อบำรุงและชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ได้แก่อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ , กรดไขมันโอเมก้า-3,วิตามิน บี6 บี12 เช่น ผัก,ผลไม้ ,ธัญพืช ,ปลา , วิตามิน E, ใบแป๊ะก๊วย, น้ำมันปลา เป็นต้น งานวิจัยของมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ลอนดอน ระบุว่า
มีผักและผลไม้ 5 ชนิด มีสารประกอบที่ทำหน้าที่เหมือนกับยาที่ใช้รักษาโรคอัลไซเมอร์ ได้คือ บร็อกโคลี มันฝรั่ง ส้ม แอปเปิ้ล และหัวไชเท้า โดยเฉพาะบร็อกโคลี มีสารดังกล่าวเยอะที่สุด

2.หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง ของทอด อาหารเค็มจัด หวานจัด และอาหารหมักดอง อาหารพวกนี้นอกจากทำให้ผูที่ทานอารหารเหล่านี้เป็นประจำ ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด, ไขมันในเลือดสูง,เบาหวาน ตามสถิติยังพบว่า ผู้ป่วยเหล่านี้มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นด้วย

3.บริหารร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หมั่นออกกำลังกายทำให้เลือดไหวเวียนดี ได้รับออกซิเจนเป็นผลดีต่อระบบประสาทรวมถึงการบริหารสมองด้วย เช่น การเล่นเกมอักษรไข้ว, เกมต่อภาพ,เกมทดสอบความจำ หรือการเรียน เต้นรำ, ดนตรี ,ภาษาใหม่ๆ เป็นต้น

4.จัดการกับความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการทำลายของเซลล์สมอง จึงควรเรียนรู้ในการจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้น ด้วยการผ่อนคลาย และพักผ่อนให้เต็มที่ เช่น การนั่งสมาธิ , การนอนหลับ